คุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ไช่ไหม? เวลาไม่พอ แพ็คของไม่ทัน ต่อคิวนาน ติดตามของไม่ได้ รถติด เวลา คือ ไม่มีเวลาทำอย่างอื่น/เวลาส่วนตัวหาย แพ็คของไม่ทัน คือ มีออเดอร์เยอะแพ็คไม่ทัน/ไม่มีลูกน้องคอยช่วย ต่อคิวนาน คือ ต้องไปต่อคิวที่ไปรษณีนาน/คนเยอะหงุดหงิด ติดตามของไม่ได้ คือ ไม่รู้ว่าสินค้าถึงไหนแล้ว/กำหนดเวลารับของให้ลูกค้าไม่ได้ รถติด คือ
ยุคปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับความเจริญก้าวหน้าที่มาเร็วมาก บ้างที่เรายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ มีหลายคนที่ยังงงกับเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด บ้างทีเราเองยังงงๆเลย มีอย่างงี้ด้วยหรอ? ทำอย่างงี้ก็ได้หรอ? เป็นคำถามที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวของใครหลายๆคน มนุษยเรานี้เก่งจริงๆ สามารถทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ก็ทำได้ต้องขอนับถือในความฉลาดของท่านที่ทำให้เราใช้ชีวิตกันแบบง่ายสะดวกสะบาย แต่เทคโนโลยีก้าวหน้าก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี ข้อเสียก็มีเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับคนที่นำมาใช้ จะใช้ให้ถูกทางแค่ไหนวันนี้เราจะมาดูกันว่าอุปสรรคของแม่ค้าออนไลน์กัน นำเรื่องมาไม่ค่อยจะเกี่ยวกับหัวข้อเลย
พนักงานประจำและไม่ประจำหลายๆท่านคงกำลังมองหารายได้เสริมจากงานที่ทำ เพราะค่าครองชีพเพิ่มขึ้น รายจ่ายมากกว่ารายรับ มีภาระเพิ่มขึ้น ค่าบ้าน ค่ารถ สาระพัดค่า อย่าเพิ่งคิดมากครับ มาเป็นแม่ค้าสิ? จะเอาเวลาที่ไหนไปทำเลิกงานมาก็ต้องกลับบ้านหนื่อย จะให้ไปยืนขายของที่ตลาดอีกไม่เอาเหนื่อย! ใจเย็นๆครับเป็นแม่ค้านะไช่แต่ไม่ต้องไปยืนขายที่ตลาดครับ มาเป็นแม่ค้าออนไลน์ ทำตอนไหนก็ได้ มีเวลาว่างก็ค่อยทำ
ปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นใหม่มากมาย เป็นเพราะทุกคนสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้นจากเดิม และไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไรมาก มีงบเพียงหลักร้อยบาท ก็สามารถเริ่มเปิดร้านขายของได้ทันที รวมทั้งขั้นตอนการเปิดร้านค้าออนไลน์ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ทำให้แม่ค้าออนไลน์มือใหม่มีความสนใจอยากจะมีเว็บไซต์ขายสินค้าของตัวเองอยู่มาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างร้านค้าด้วยกัน ชนิดที่เรียกได้ว่า “ล้นตลาด” เลยทีเดียว 1 เว็บสวยมีชัยไปกว่าครึ่ง การเริ่มต้นทำร้านค้าออนไลน์ที่ดี คือการมีเว็บไซต์ที่มีหน้าตาสวย
เคล็ดลับนี้ จะช่วยให้คุณสร้างร้านค้าออนไลน์ ให้โดนใจลูกค้า เป็นที่รู้จักและมียอดขายมากยิ่งขึ้น 1) รู้ข้อมูล พฤติกรรมของลูกค้าคุณ ก่อนที่พ่อค้า-แม่ค้า จะสร้างร้านค้าออนไลน์ ที่สำคัญที่สุด คุณจะต้องรู้ว่ากำลังขายให้ใคร ใครคือคนที่จะมาซื้อสินค้า อะไรที่ลูกค้าต้องการ หรือเรียกภาษาที่เข้าใจง่ายๆคือ “กลุ่มเป้าหมาย”
ปัจจุบันการขายของออนไลน์ ถือว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาว หรือคนวัยทำงานก็สามารถเปิดร้านขายของออนไลน์ได้ แต่การเปิดร้านค้าออนไลน์นั้น จำเป็นต้องมีเวลาเอาใจใส่ อัพเดทอยู่เสมอ และที่สำคัญ “กลุ่มเป้าหมาย” ต้องชัดเจนค่ะ วันนี้เราจะมาดูกันว่าอุปสรรคในการขายของออนไลน์ มีอะไรกันบ้างค่ะ เวลา เวลาเป็นสิ่งที่แม่ค้าออนไลน์ควรจะมีให้มากเพราะการขายของออนไลน์ต้องแข่งขันสูงถ้าเราไม่มีเวลา เราก็สู้คนอื่นไม่ได้
พนักงานประจำและไม่ประจำหลายๆท่านคงกำลังมองหารายได้เสริมจากงานที่ทำ เพราะค่าครองชีพเพิ่มขึ้น รายจ่ายมากกว่ารายรับ มีภาระเพิ่มขึ้น ค่าบ้าน ค่ารถ สาระพัดค่าโอ้ยๆๆๆอย่าเพิ่งคิดมากครับ มาเป็นแม่ค้าสิ? จะเอาเวลาที่ไหนไปทำเลิกงานมาก็ต้องกลับบ้านหนื่อย จะให้ไปยืนขายของที่ตลาดอีกไม่เอาเหนื่อย! ใจเย็นๆครับเป็นแม่ค้านะไช่แต่ไม่ต้องไปยืนขายที่ตลาดครับ มาเป็นแม่ค้าออนไลน์ ทำตอนไหนก็ได้ มีเวลาว่างก็ค่อยทำ จะทำก่อนนอนหรือกำลังทำกับข้าวอยู่ก็ทำได้
พนักงานบริษัทหลายๆ คนที่อยากจะสร้างเนื้อสร้างตัว หรืออยากมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น ก็มักเลือกที่จะมีอาชีพเสริม เพื่อที่จะนำรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นมา โดยในบางคนรายได้เสริมนั้นมากกว่ารายประจำเสียอีก และแถมยังไม่กระทบต่องานประจำอีกด้วย ทำให้มีรายได้เข้ามาจาก 2 ทาง เรียกได้ว่าทำให้สถานะการเงินของเราดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง 1.ลองมองหาความสามารถพิเศษในตัวแล้วดึงออกมาใช้สร้างอาชีพเสริม เริ่มมาข้อแรกก็อาจจะยากสำหรับบางคน แต่อย่าพึ่งท้อไปครับ
ไอเดียธุรกิจ สำหรับคนมีความคิดสร้างสรรค์ ธุรกิจเป็นจำนวนมากในปัจจุบันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการ ที่จับเอาทักษะแนวความรู้บวกกับการคิดค้นของตนเองนำมาประยุกต์สร้างเป็นธุรกิจขึ้น แต่การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสินค้าหรือบริการผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง นั่นก็คือ ทุกคนต่างคิดว่าไอเดียของตนเองเหมาะแก่การทำธุรกิจไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วธุรกิจที่แปลกใหม่ไม่ใช่ตัวที่การันตีความสำเร็จของธุรกิจได้เสมอไป ถ้าไอเดียนั้นไม่ตอบสนองความต้องการลูกค้า แนวคิดที่จะใช้ไอเดียรวมกับธุรกิจไปด้วยก็ควรจะ รวบรวมไอเดียทั้งหมดเอาไว้ และลองคัดเลือกไอเดียที่ดีที่สุดของตัวเองออกมา โดยจะต้องมีแนวคิดองค์ประกอบทุกๆ ด้าน เช่น
ปัจจุบันมีมหาเศรษฐีมากมายอยู่บนโลกใบนี้ แต่เชื่อหรือไม่? ว่าไลฟ์สไตล์ของพวกเขานั้นอาจจะทำให้คุณประหลาดใจ พวกเขาไม่ได้ใช้เงินมือเติบอย่างที่เราเห็นในหนังฮอลลีวู้ดหลาย ๆ เรื่อง แต่พวกเขาค่อนข้างใช้เงินอย่างมัธยัสถ์หรือรู้จักใช้เงินนั่นเอง นี่คือบางส่วนของ เคล็บลับประหยัดเงิน จากคนที่รวยที่สุดในโลก Michael Bloomberg ครอบครองทรัพย์สินมูลค่า: $34,300,000,000 Michael
