เจ๊แขกแหกปาก จากเด็กล้างสู่ร้านขนมครกสุดจัดจ้านเพื่อล้างหนี้
ตอนนี้เปิดไปช่องไหน สื่อไหนก็คงจะผ่านหูผ่านตากับแม่ค้าสาย N (เอนเตอร์เทน) ที่แค่พูดชื่อ “เจ๊แขกแหกปาก” ชาวเน็ตก็ต่างร้องอ๋อกันเลยทีเดียว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อะไรที่ทำให้เขาค้นพบจุดขายที่สร้างรายได้ล้างหนี้จนหมดภายในเวลาไม่กี่ปี วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน ร้านเจ๊แขกถือได้ว่าตั้งอยู่ในย่านปราบเซียนเรื่องของกินเลยทีเดียว เพราะมีแต่ของเด็ดมารวมตัวกันขายโดยมิได้นัดหมาย แต่ร้านที่สร้างปรากฏการณ์คิวยาวถล่มทลายอย่างยาวนานและความแปลกไม่เหมือนใครต้องยกให้ร้านเจ๊เท่านั้น ร้านขนมครกอารมณ์ดีที่หยอดมุกให้ลูกค้าบ่อยกว่าหยอดขนมครกซะอีก

“ขนมครกไหมจ๊าาา” เสียงเจ๊แขกที่แหกปากดังลั่นพระปฐมเจดีย์ บวกกับการแต่งหน้าแต่งตัวทำให้เป็นที่สะดุดตาเป็นไหน ๆ ผู้คนต่างพากันถ่ายรูปเจ๊ประหนึ่งเซเลปชื่อดัง ระหว่างรอคิวอันแสนยาวนาน เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “คุณไพทูรย์ ขำขัน” หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า “เจ๊แขก”
“จริง ๆ แม่เจ๊ขายมาสิบกว่าปีแล้ว เจ๊ก็ไม่ได้สนใจอยากจะขายต่อหรอก ตอนนั้นแม่ขายแค่ห้าบาทสิบบาท แคะจนมือพังก็ไม่รวยสักที พอเราเรียนจบเลยไปหาทำงานโรงแรมที่ภาคใต้ ก็เป็นเด็กล้างจานนั่นแหละ ยังตลกตัวเองอยู่เลยว่าไปทำทำไม พอทำไปสักพักไม่ไหว กลับมาช่วยแม่ขายขนมครกดีกว่า เราก็ขายมาเรื่อย ๆ” เจ๊เล่าด้วยอินเนอร์เมาธ์มอย

ช่วงแรกเจ๊แกก็ขายขนมครกไส้ปกตินะ แต่ก็ได้เด็ก ๆ ที่จุดประกายให้แปลงโฉมขนมครกจนเป็นอย่างทุกวันนี้
“คือตอนนั้นเราไปขายขนมครกที่งานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วเด็กมันขอว่าขอไส้เยอะ ๆ หน่อยพี่ เราให้เยอะแล้ว เด็กมันก็บอกขออีกได้ไหมพี่ เจ๊เลยจัดให้ล้น ๆ ไปเลย กลายเป็นเด็กมันชอบ พาเพื่อนมากินกันเต็มไปหมด ก็เลยยึดไว้เป็นเอกลักษณ์” เจ๊เล่าพร้อมทั้งโรยหน้าขนมครกเหมือนทำหก เยอะเหมือนประชด อะไรมันจะเยอะขนาดนั้นเจ๊!

หลังจากที่เจ๊มาทำไส้ล้น คนเริ่มเยอะ คิวยิ่งรอนาน เจ๊ก็มีแค่สองมือ สิ่งที่ทำได้เลยเริ่มแซวและเล่นกับลูกค้า จนลูกค้าติดใจถ่ายลงโซเชียลมากขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้เจ๊เลยเพิ่มดีกรีความเปรี้ยวด้วยการแต่งหน้าแน่นขึ้นทุกวัน เรียกได้ว่าแน่นกว่าไส้ขนมครกก็หน้าเจ๊แกนี้แหละ! จนในที่สุดเสียงระฆังแห่งสวรรค์ และแสงเรืองรองก็ส่องสว่างอยู่เบื้องหน้า เพราะขนมครกหน้าล้นช่วยปลดหนี้ได้จริง ๆ! (เราพยายามถามว่ามันเท่าไหร่กัน แต่เจ๊ขออุบเงียบไว้เป็นความลับ) แม้การรอขนมครกครั้งนี้ จะเป็นการรอคอยที่ยาวนานนับหลายชั่วโมง แต่เจ๊ไม่ได้ทำให้การรอของเราน่าเบื่อเลย เพราะตลอดเวลาที่เจ๊ยังคงเรียกเสียงเฮฮาให้ลูกค้าได้

ตลอดเวลา อย่างมุกที่เจ๊แกจะพูดติดปากอยู่เสมอว่า “ขนมครกร้านนี้อร่อยที่สุดใน 3 โรค เบาหวาน ความดัน มะเร็ง ครบ” ทำให้มีแต่ความสุขสนุกอยู่หน้าเตา เมื่อถึงคิวเรา เราเลือกที่จะสั่ง “ขนมครกรวมไส้” (35 บาท) โดยมีไส้ “มะพร้าวอ่อน” ยอดฮิตที่เจ๊การันตีว่า “อ่อนแน่อ่อนนอนอ่อนกว่านี้ก็เด็กแรกเกิดแล้ว” แล้วยังมีไส้ “มันม่วง” ที่กำลังฮิตกันในปัจจุบัน “ไส้เผือก” “ไส้ข้าวโพด” และ “ไส้ฟักทอง” เรื่องความแน่นของไส้คงไม่ต้องพูดถึง ให้ภาพมันเล่าเรื่องเอาละกัน แต่ที่ถูกใจเรามาก ๆ คงเป็นความมันของกะทิที่หวานมันกำลังดี ยิ่งได้กินตอนร้อน ๆ ที่เพิ่งออกจากเตาบอกเลยว่ามันดีมาก ใครอยากมาลองขนมครกรสชาติดี ลีลาการขายเลิศก็มาเจอเจ๊กันได้