บล็อกเกอร์ สร้างรายได้ออนไลน์ทำเงินแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า

บล็อกเกอร์ สร้างรายได้ออนไลน์ทำเงินแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า

บล็อกเกอร์ทางเลือกการสร้างรายได้ออลไลน์ อาชีพทำเงินแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า มีใครบ้างไม่อยากเป็น แต่จะเป็นอย่างไร ทำอย่างไร หลายคนอยากมีอาชีพแบบนี้บ้างไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เริ่มอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง จึงจะได้เป็นบล็อกเกอร์ที่สร้างรายได้เหมือนคนอื่นๆหากเป้าหมายของคุณคือการสร้างรายได้ออนไลน์แบบที่ไม่ต้องสต็อกสินค้าแล้วละก็ บทความนี้มีคำตอบสำหรับการเริ่มต้นสร้างธุรกิจออนไลน์ที่คุณกำลังมองหา

ทำไมบล็อกเกอร์ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้า

เหตุผลหลักๆ ที่บล็อกเกอร์ไม่ต้องสต็อกสินค้ามากมายเพราะการ “สร้างบล็อก” เป็นกระบวนการในการ “สร้างตลาด” หรือสร้าง “พื้นที่ความต้องการ” ของลูกค้าก่อนที่จะทำการ “ผลิตสินค้า” ซึ่งเป็นการทำงานที่ตรงกันข้ามกับการทำธุรกิจทั่วไปที่ “ผลิตสินค้า” การที่จะเริ่ม “ทำการตลาด”

มีตลาดก่อน มีลูกค้าก่อน จึงค่อยผลิตสินค้าหรือบริการให้กับกลุ่มลูกค้าจึงเป็นช่องทางที่ไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้ามากองไว้เต็มสต็อก เพราะเมื่อถึงวันที่ตลาดเราเป็นที่รู้จัก ลูกค้าเราชัดเจน ลูกค้าจะเป็นผู้ “ร้องขอ” เราเองให้ผลิตสินค้าหรือบริการให้พวกเขา และเป็นการจ่ายเงินซื้อแบบยังไม่มีสินค้าหรือเรียกง่ายๆ ว่า “Pre Order”  หรือการ “จอง” ด้วยซ้ำไป ผลิตออกมาเมื่อไหร่ก็หมดเมื่อนั้น

นี่เป็นเพียงแค่หนึ่งช่องทางสร้างรายได้แบบไม่ต้องสต็อกของเหล่าบล็อกเกอร์ ยังมีช่องทางสร้างรายได้อีกพอสมควรที่บล็อกเกอร์สามารถทำได้ อยากเป็น “บล็อกเกอร์” กันมากขึ้นแล้วใช่ไหมหละ

เริ่มเป็นบล็อกเกอร์อย่างไร

อ่านดูแล้วช่องทางการสร้างรายได้ของบล็อกเกอร์มันชวนฝัน สร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน ไม่ต้องสต็อกสินค้า ไม่ต้องขาย ก็มีรายได้ อยากเป็นบล็อกเกอร์เร็วๆ แล้วสิ !!

แต่เดี๋ยวก่อนนะ เส้นทางนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนกับธุรกิจทั่วๆ ไปหนะแหละ ความยากของการทำอาชีพสายบล็อกเกอร์คือการ “สร้างพื้นที่” ให้คนยอมรับเชื่อถือ ส่วนนี้อาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี คุณไม่ได้ผลิตสินค้ามาสต๊อกก็จริงอยู่ แต่คุณจำเป็นต้อง “ผลิตคุณค่า” ลงในบล็อกของคุณตลอดเวลา

คำว่าคุณค่าบนโลกออนไลน์ก็คือ “คอนเทนต์” ที่เป็นประโยชน์และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ก่อนที่จะกระโดดลงมาลุยธุรกิจนี้ถามตัวเองสักนิดว่าเราสามารถที่จะทุ่มเทสร้างคอนเทนต์ได้อย่างต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลากี่สัปดาห์ กี่เดือน หรือ กี่ปี แบบยังไม่มีรายได้ หากมั่นใจว่าเราพร้อมที่สร้าง “คุณค่า” บนโลกออนไลน์ และรอคอยความสำเร็จแบบนี้ได้ นี่คือ “ทัศคติ” หรือ Midset เริ่มแรกของการเป็น “บล็อกเกอร์”

บล็อกเกอร์สร้างเงินได้อย่างไร

รายได้สายบล็อกเกอร์จะมากขึ้นตามความน่าเชื่อถือของบล็อก แรก ๆ เราอาจจะไม่มีรายได้เลยซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนเริ่มทำธุรกิจสายนี้ ทว่าหากยังมุ่งมั่นที่จะทำต่อเนื่องรายได้จะตอบแทนกลับมาอย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

การทำเงินรายได้ของบล็อกเกอร์พอจะแบ่งรูปแบบได้ดังนี้

1.Advertising Network : แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางในการจัดการโฆษณาระหว่างเจ้าของธุรกิจผู้ลงโฆษณากับนักประชาสัมพันธ์ เจ้าของเว็บไซต์ที่ยินดีที่จะนำโฆษณาไปลงในเว็บไซต์ ต้นแบบ platform นี้คือ Google Adsense ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Google บล็อกเกอร์สามารถนำโฆษณามาลงในเว็บได้ เพียงแค่นำโค๊ดจากแพลตฟอร์มที่ให้บริการมาติดตั้งในบล็อกเพียงเท่านี้ ก็จะมีโฆษณาที่เหมาะสมสลับสัปเปลี่ยนขึ้นมาบนหน้าบล็อกของเรา รายได้เกิดจากการที่คนเข้าคลิ๊กเข้าไปดูเนื้อหาของโฆษณาเหล่านั้น

2.Affiliate Partner : เป็นอีก 1 ช่องทางที่บล็อกเกอร์สามารถนำสินค้าหรือบริการมาทำการตลาดได้โดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า รูปแบบรายได้ของการทำ Affiliate คือเราจะได้รับรายได้เมื่อเราสามารถแนะนำคนผ่านช่องทางของเราให้เข้าไปซื้อสินค้า ลงชื่อ สมัครบริการ  กับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เช่น แนะนำให้คนสมัครบัตรเครดิต จองโรงแรมที่พัก หรือ ซื้อสินค้าเครื่องสำอาง ผ่านแพลตฟอร์มตัวกลาง หรือ บางธุรกิจเองก็จัดให้มีการทำ Affiliate Partner ตัวอย่าง แพลตฟอร์มผู้ให้บริการ Affiliate เช่น Acccesstrade.in.th ,AMOT.com เป็นต้น

3.Advertorial : การโฆษณาแฝง หรือ การรีวิวสินค้าในรูปแบบความเป็นเอกลักษณ์ของบล็อกเกอร์ต่างๆ เช่นบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวก็จะแนะนำที่พัก ที่เที่ยว ร้านอาหาร โดยได้ค่าโฆษณาจากธุรกิจเหล่านั้น บล็อกเกอร์สายการเงิน การลงทุน ก็อาจจะมีการแนะนำบริการของธนาคาร สถาบันการเงิน เป็นต้น

4.Banner :เป็นรูปแบบป้ายโฆษณาสินค้า บริการที่นำมาติดบนเว็บไซต์ เป็นเหมือนกับป้ายบิลบอรร์ดที่ติดอยู่ในเว็บไซต์ของเรา รายได้ขึ้นอยู่กับขนาดแบนเนอร์และตำแหน่งที่ติดแบนเนอร์

5.Owner Info product : สินค้าของตัวเองซึ่งเป็นรูปแบบของสินค้าดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น Ebook ,คอร์สฝึกอปรมออนไลน์ เป็นต้น สินค้าเหล่านี้ไม่ต้องสต๊อกสินค้า แต่ก่อนที่จะผลิตสินค้าเหล่านี้ได้ต้องรอให้บล็อกได้รับความนิยมในระดับหนึ่งก่อน