นักแปล รายได้และค่าตอบแทน

นักแปล รายได้และค่าตอบแทน

การเรียนและการทำงานไม่ว่าจะอยู่ในสายอาชีพใด ๆ ก็ตาม ซึ่งไม่ว่าภาษาที่ 2และภาษาที่ 3 นั้นจะเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น และภาษาอื่นๆ ล้วนแล้วแต่จะทำให้เงินเดือนหรือค่าตอบแทนของคนประกอบอาชีพเกี่ยวกับการใช้ภาษาต่างประเทศพุ่งสูงขึ้นตามความยากง่ายและความต้องการของตลาดแรงงานที่เกี่ยวข้องกับภาษา วันนี้เราจะพาท่านมาดูค่าตอบแทนแบบค่าวๆ กัน

1  นักแปลในบริษัทเอกชน (งานประจำ)

กรณีที่แปล ไทย – อังกฤษ หรือ อังกฤษ – ไทย หากคิดราคาเฉลี่ยหรือเรทราคาจากการทดสอบการจับเวลาในการแปล อาจจะคำนวณจากจำนวนคำหรือจำนวนหน้าที่สามารถแปลได้ภายใน 8 ชั่วโมง เช่น หากแปลได้จำนวน 3-4 หน้ากระดาษในเวลา 8 ชั่วโมง ก็น่าจะได้เงินเดือนราว ๆ 12,000 – 13,500 บาท หรือหากแปลได้ราว ๆ 10 หน้าหรือมากกว่านั้นภายในระยะเวลา 8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเอกสารและคำแปลอยู่ในระดับเกือบสมบูรณ์พร้อม) เงินเดือนจะอยู่ที่ราว ๆ 35,000 – 38,000 บาท   ซึ่งนักแปลต้องมีทักษะในการตีความสูงมาก คำแปลต้องสื่อความหมายได้อย่างถูกต้องชัดเจนครบถ้วนไม่ผิดเพี้ยน แต่ถ้าหากว่านักแปลสามารถแปล ไทย – อังกฤษ หรือ อังกฤษ-ไทย ได้อย่างมีวรรณศิลป์ กล่าวคือ นอกจากจะแปลความหมายออกมาได้อย่างถูกต้องชัดเจนครบถ้วนแล้ว ยังสามารถเลือกใช้ถ้อยคำต่าง ๆ ได้อย่างสละสลวย ก็น่าจะได้รับเงินเดือนราว ๆ 70,000 บาทหรือสูงกว่าขึ้นอยู่กับผลงานและประสบการณ์เฉพาะบุคคล จากข้อมูลฐานเงินเดือนโดยเฉลี่ยของนักแปลและล่าม ในปี 2018 สำหรับคนมีประสบการณ์ต่ำกว่า 5 ปี อยู่ในระดับ 35,000 – 50,000 บาท และสำหรับนักแปลที่มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปีขึ้นไป จะมีฐานเงินเดือนราว ๆ 50,000 – 80,000 บาทต่อเดือน และนักแปลที่มีค่าตัวสูงสุดในประเทศไทย คือนักแปลภาษาญี่ปุ่นซึ่งมีรายได้หรือราคาค่าตัวสูงกว่าภาษาอื่น ๆ ราว ๆ สองถึงสามเท่าเลยทีเดียว

2 นักแปลอิสระ (ฟรีแลนซ์)

บางคนอาจจะไม่ได้เรียนด้านภาษาศาสตร์โดยตรงหรืออาจจะต้องการเป็นนักแปลเพื่อหารายได้เสริมหรือทำเป็นงานอดิเรกเท่านั้น เราลองมาดูตัวเลขรายได้งานแปลแต่ละประเภทกันว่ามันน่าดึงดูดเพียงใด เริ่มต้นจากงานแปลบทสารคดีที่มีความยาวประมาณ 20 หน้า จะได้รับค่าจ้างราว ๆ เรื่องละ 5,000 – 7,000 บาท บทละครซีรีส์ตอนละ 3,000 – 5,000 บาท หรือแม้แต่รายได้จากกว่าแปลเอกสารทั่วไปที่มีราคาค่าจ้างหน้าละ 300 – 800 บาท ตลอดจนการแปลหนังสือ นิยาย หรือนวนิยายขนาดยาวที่มีค่าจ้างในการแปลเฉลี่ยเล่มละ 30,000 – 80,000 บาท หรืออาจจะเกินหลักแสนหากเป็นเรื่องที่มีคำศัพท์เฉพาะทางวิชาการมาก ๆ เป็นต้น ยิ่งนักแปลมีความชำนาญมากเท่าไรก็ยิ่งสามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น กล่าวคือ คุณสามารถทำงานปริมาณมาก ๆ ในเวลาที่น้อยกว่าคนอื่น ๆ นั่นก็หมายความว่า คุณมาสามารถทำเงินได้จำนวนสูงขึ้นในเวลาที่สั้นลง ซึ่งโดยเฉลี่ยในปี 2018 มีนักแปลอิสระเก่ง ๆ สามารถทำเงินได้หลักแสนต่อเดือนเลยทีเดียว

ทักษะที่สำคัญของนักแปล

1  ทักษะด้านภาษา

การก้าวไปสู่ความสำเร็จในอาชีพนักแปล คุณจำเป้นต้องมีความเชี่ยวชาญทั้งสองแปลที่คุณแปล ไม่ว่าจะเป็นภาษาต้นทางหรือภาษาปลายทางใด ๆ ก็ตาม ซึ่งคุณต้องมีภาษาแม่เป็นภาษาใดภาษาหนึ่ง และหากคุณมีทักษะการเขียนที่ดีเยี่ยมสำหรับภาษาที่เป็นภาษาแม่ด้วยแล้วยิ่งทำให้คุณสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไม่ยากเย็น

2  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์

คุณควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะ ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ เดสก์ทอปพับลิชชิ่ง (Desktop Publishing) หรือ โฟโตช้อป (Photoshop) และอินดีไซน์ (InDesign) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการทำงาน เพราะนักแปลจำเป็นต้องใช้โปรแกรมเหล่านี้ในการทำงาน หากคุณสามารถใช้งานโปรแกรมเหล่านี้ได้อย่างคล่องแคล่ว ก็จะช่วยสร้างโอกาสในการทำงานแก่คุณได้มากขึ้นเช่นกัน

3 ทักษะด้านธุรกิจ

นักแปลในโลกยุคใหม่จำนวนไม่น้อยที่หันมาทำเป็นอาชีพอิสระ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เป็นที่คุรจะต้องมีความเฉียบแหลมในเรื่องธุรกิจบ้างโดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานด้านการตลาดซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างเครือข่าย เป็นที่รู้จัก และเพิ่มโอกาสจ้างงานแก่ตัวเอง เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ คุณจะต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเองเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งมากมายที่เป็นนักแปลอิสระเช่นเดียวกับคุณ โดยเฉพาะเรื่องความตรงต่อเวลาและการจัดระเบียบในการทำงาน